อนุทิน ชี้แจงรายละเอียด วัคซีนซิโนแวค หลังเจอฝ่ายค้านถล่มอย่างหนัก ลั่นอย่าด้อยค่าวัคซีน ชี้มีประสิทธิภาพ ยึดคำรับรอง อย. เป็นหลัก ไม่ใช่ WHO

เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 31 ส.ค. 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้ขึ้นอภิปรายว่าด้วยประเด็น การจัดหาวัคซีนป้องกัน CV-19 ที่ถูกฝ่ายค้านถล่มอย่างต่อเนื่องเพราะมีข้อสังเกตในเรื่องของประสิทธิภาพและราคาของวัคซีนซิโนแวค ว่า การใส่ร้ายวัคซีนซิโนแวคของ ส.ส. หลายคน อาจทำให้ประชาชนตื่นตระหนก สับสน วิตกกังวล

เพราะมีประชาชนมากกว่า 3 ล้านคน ได้รับวัคซีนซิโนแวค ซึ่งตนต้องขอยืนยันอีกครั้งว่า วัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีนที่ดี มีมาตรฐาน มีประสิทธิภาพประสิทธิผล เพียงแต่ว่าเมื่อ CV-19 มีการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์เดลตา ประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีนซิโนแวค อาจลดลงไปบ้างและไม่ใช่แค่ซิโนแวคยี่ห้อเดียว แต่ทุกยี่ห้อที่มีการใช้อยู่ในโลก

"ด้วยความสัมพันธ์ที่ดี บ้านพี่เมืองน้อง ไทยจีนใช่อื่นไกล ผมถึงมีความจำเป็นมากเลยครับ เพราะว่าการพูดถึงซิโนแวค ก็เปรียบเสมือนพูดถึงประเทศจีน เราจะบอกว่าของพี่ของน้องเราไม่ดี เป็นเซินเจิ้น ด้อยค่า เกรดดีด็อก ไม่ได้หรอกครับ"

"พวกเราทุกคนหลายคนในที่นี้ที่อายุต่ำกว่า 60 ปี ก็มีวัคซีนซิโนแวคอยู่ในร่างกายทั้งนั้น และผมก็เชื่อว่าที่เรายังไม่มีอาการรุนแรง มีบางคนติดเชื้อ แต่ก็ไม่แสดงอาการก็เพราะอานิสงส์ของการมีวัคซีนซิโนแวคอยู่ในร่างกายของเรา" นายอนุทินกล่าว

ส่วนเรื่องประเด็นราคานั้น นายอนุทินชี้แจงว่า ที่กล่าวหาว่าซื้อวัคซีนซิโนแวคในราคาแพง โดยยอมรับซื้อครั้งแรกราคา 17 เหรียญ ซื้อจำนวน 2 แสนโดส เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินทั้งที่จริงมีการเปิดราคาสูงกว่านั้น ช่วงเดือนเมษายนที่มีการระบาดคลัสเตอร์ทองหล่อ บ่อนการพนัน กรมควบคุมโรคจึงตัดสินใจซื้อเพิ่ม ราคาก็ลดลงปัจจุบันเหลือ 8.9 เหรียญ

ซึ่งการจัดซื้อ 2 ล้านโดสในครั้งแรกเป็นการขอให้เร่งส่งด่วน เหมือนเราไปตัดล็อตเขามา แต่เรื่องราคาและความปลอดภัยของประชาชนมันเทียบกันไม่ได้ ถึงแพงกว่านี้แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ต้องจัดซื้อจัดหามาจนได้

ส่วนประเด็นที่มีการรับรองจาก องค์การอนามัยโลก หรือ WHO หรือไม่นั้น นายอนุทินระบุว่า ในประเทศไทย เรายึดองค์การอาหารและยา (อย.) เป็นหลัก ถ้า อย. อนุมัติ ถือว่านำมาใช้ได้ สำหรับการฉีดไขว้วัคซีน ขอให้เป็นเรื่องทางวิชาการ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็คงจะได้ออกมาชี้แจงเป็นระยะแล้ว...
ขอบคุณข้อมูลจาก: วิทยุและโทรทัศน์รัฐสภา